ทันตกรรมรากเทียม
เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยสำหรับการทำรากเทียมนั้นได้ช่วยให้การทำการรักษาง่ายขึ้นและใช้เวลาในการรักษาน้อยลง ในอดีต คนไข้ต้องรอนานถึง 6 เดือนหลังจากการฝังรากเทียม ก่อนจะสามารถมีฟันบนรากเทียมได้ ดวยความก้าวหน้าทางวัสดุศาสตร์ ในบางกรณีคนไข้สามารถมีฟันใส่ได้ในวันเดียวกันกับการฝังรากฟันเทียม ซึ่งเรียกว่า : Immediate load Implant " ซึ่งอุปกรณ์ที่ทันสมัยเหล่านี้จะประกอบด้วย
เครื่องมือที่ใช้ในการทำศัลยกรรมรากเทียม

เครื่องมือนี้จะใช้เตรียมกระดูกที่จะทำการฝังรากเทียม ณ.ตำแหน่งที่กำหนดไว้ โดยเครื่องมือนี้จะมี รอบการหมุนที่ต่ำมาก ทำให้ไม่มีความร้อนเกิดขึ้นขณะเตรียมกระดูกเพื่อรองรับรากเทียม ซึ่งจะเพิ่มความสำเร็จในการทำรากเทียมประเภทต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและปลอดภัยต่อผู้เข้ารับการรักษา
เครื่องเอ็กซเรย์ระบบ CT scan

เครื่องเอ็กซเรย์ชนิดนี้จะเป็นการใช้มุมมอง 3 มิติในการตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพของกระดูกรองรับรากเทียม ทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ ก่อนที่จะเริ่มทำการรักษาจากทันตแพทย์เฉพาะสาขารากเทียม เครื่องมือชนิดนี้ช่วยลดผลแทรกซ้อนจากการฝังรากเทียมได้อย่างมาก
เครื่องเอ็กซเรย์แบบมองทั้งปาก Panoramic x-raysจะเป็นการเอ็กซเรย์ที่ทำควบคู่กับเอ็กซเรย์แบบ 3 มิติเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องทางด้านโครงสร้างภายในช่องปาก ซึ่งเอ็กซเรย์ประเภทนี้นิยมใช้กับผู้เข้ารับการรักษาทุกท่านที่ต้องการตรวจสุขภาพภายในช่องปากทั้งหมด
คอมพิวเตอร์ที่ใช้วางแผนการรักษาด้วยระบบ 3 มิติ
 การใช้โปรแกรมการวางแผนด้วยระบบ 3 มิติเริ่มเป็นที่นิยมกันมากเพราะสามารถใช้วางแผน วิธีการทำรากเทียม รวมทั้งทันตแพทย์รากเทียมสมารถรู้ถึงปริมาณมวลกระดูกที่ต้องใช้รองรับรากเทียม ทั้ง 3 มิติ์ ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดนี้จะใช้ ร่วมกับ การถ่ายภาพรังสีระบบ 3D CT scan เพื่อประเมินวัดขนาดของรากเทียมที่จะใช้ เช่น ขนาด และความยาวของรากเทียม ได้อย่างแม่นยำ โดยทันตแพทย์ผู้ชำนาญทางทันตกรรมรากเทียมสามารถเห็นตำแหน่งของ อวัยวะสำคัญเช่น ตำแหน่งของเส้นประสาท หรือ ตำแหน่งของผนังโพรงจมูก ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะหลีกเลี่ยงการเกิดผลแทรกซ้อนอันไม่พึงประสงค์ เช่น อาการชาหลังผ่าตัด หรือ การที่รากฟันเทียมทะลุผนังโพรงจมูกเป็นต้น
อุปกรณ์รากเทียมรวมทั้งวัสดเคลือบผิวุพิเศษที่ช่วยในการทำรากเทียม
ด้วยการพัฒนาที่มากขึ้นเรื่อยๆของรากเทียมตั้งแต่ประเภทการใช้งาน, ผิวรากเทียม รวมทั้งระยะเวลาที่รากเทียมจะยึดติดกับกระดูกนั้น สามารถนำมาปรับปรุงให้ใช้ได้ตามความเหมาะสมในแต่ละกรณี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ตามลักษณะของสภาพกระดูกและฟันที่ต้องการรักษา ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปริมาณกระดุกที่สมบูรณ์ รากฟันเทียมประเภทนี้สามารถร่นระยะเวลาการรักษาจาก 6 เดือน เป็น 4-6 สัปดาห์เท่านั้น
รากเทียม ITI Straumann แบบ Bone level จะช่วยแก้ไขเรื่องความสวยงามของฟันหน้า และเน้นการเชื่อมต่อในบริเวณขอบเหงือกและฟัน ทำให้ขอบเหงือก โดยรอบรากฟันเทียมสวยงามดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังเป็นการออกแบบโดย่ใช้วัสดุเคลือบผิวรากเทียมด้วย SLActive surface ทำให้ เซลล์กระดูกมายึดติดกับผิวรากเทียมเร็วและง่ายขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีการออกแบบรากเทียมให้มีขนาดเล็กลงแต่คงความแข็งแรงเทียบเท่าปกติเพื่อความสวยงามอีกด้วย
Roxolid and Titanium Bone Growth |
|
|
Roxolid |
Titanium |
รากเทียมที่ใช้วัสดุชนิดใหม่ เรียกว่า Roxolid สามารถลดขนาดของรากเทียมให้เล็กลง โดยคงความแข้งแรงไว้ ทำให้ทันตแพทย์มีทางเลือกมากขึ้นในกรณีที่มีพื้นที่หรือปริมาณกระดูกน้อย ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการต้องผ่าตัดเสริมกระดูก หรือ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่รากฟันเทียมจะสัมผัสเส้นประสาทได้ ภาพจากกล้องจุลทรรศน์ แสดงว่า รากฟันเทียม แบบ Roxolid มี ปริมาณเซลล์กระดูกมาเกาะมากกว่า รากฟันเทียมแบบเดิมที่มีิผิว Titanium

|